@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 12/5 วันที่ 30 พ.ค. 57

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 12/5 วันที่ 30 พ.ค. 57

เคที่และวีวี่ถูกลากตัวออกไปทั้งที่ยังโวยวาย นัครินทร์ประคองเดือน “เจ็บมากมั๊ยฮะ??”
ประกายเดือนเจ็บจริงๆ ปาริฉัตรเบะหน้าสมน้ำหน้า ประกายเดือนมองเห็นแล้วก็เล่นละคร “โอ๊ย..เจ็บค่ะ เจ็บมาก”
ปาริฉัตรตาโต นังนี่??

นัครินทร์ห่วงจริง “ไหนครับ.. เจ็บตรงไหน??”
“เจ็บหมดค่ะ..ตรงนี้ๆๆๆ”
นัครินทร์เงยหน้าขึ้นมองปาริฉัตร มอลลี่ ลูกกอล์ฟ และจามจุรี “เอ๊า!! มัวแต่มายืนเซ่อกันอยู่ทำไมฮะ?? มาช่วยกันหายามาทำแผลสิฮะ??” ทุกคนอึ้ง ก่อนจะรีบวิ่งกันกระจาย


นัครินทร์ส่งเสียงลั่น “เดี๋ยว!!!” ทุกคนฟรีซชะงัก ท่าไหนท่านั้น แล้วหันมาฟัง “ต่อไปนี้ ถ้าใครปล่อยให้ 2 คนนี้ขึ้นมาวุ่นวายบนนี้ได้อีกล่ะก็..ผมจะไล่ออกหมด!!!เข้าใจมั๊ย???”
ปาริฉัตรอึ้ง!!!ทุกคนตะลึง !!! นัครินทร์ตวาด “เข้าใจมั๊ย???
“เข้าใจค่ะ/ครับ” ทุกคนวิ่งต่อไปเอายา ยกเว้นปาริฉัตรที่จ้องประกายเดือนอยู่ ประกายดือนหลิ่วตาให้ปาริฉัตรอย่างยั่วโมโหสุดๆ ก่อนจะโอดโอยใส่นัครินทร์ต่อไป ปาริฉัตร แค้น!!!

ห้องนอนนารถนรินทร์ นารถนรินทร์ทำกายภาพในระดับที่คืบหน้ากว่าเดิมไปมากแล้วนารถนรินทร์ทำได้ดีมาก สุดท้ายโผเข้ากอดปานตะวันที่ดีใจมากเช่นกัน
“นารถทำได้แล้ว!! ทำได้จริงๆด้วยค่ะพี่ตะวัน” ปานตะวันยิ้มให้ “ขอบคุณพี่ตะวันมากนะคะ ที่อดทนกับนารถมาตลอดถ้าไม่มีพี่ตะวัน ความฝันของนารถคงไม่มีทางเป็นจริงแน่ๆ อ้อ! ต้องขอบคุณพี่คินอีกคนสิที่พาพี่ตะวันมาหานารถ”
ปานตะวันยิ้มฝืดๆ..ใช่..เราต้องอดทนมากจริงๆ
“อ้อ! แต่นารถของร้อง..อย่าเพิ่งบอกกับใครว่านารถเก่งขึ้นมากแล้วนะคะ ไม่ว่าใครทั้งนั้น แม้แต่คุณพ่อคุณแม่ เพราะนารถอยากเซอร์ไพรส์ทุกคน อยากจะเดินให้ทุกคน โดยเฉพาะพี่วิทย์ได้เห็นเป็นครั้งแรกในงานแต่งงานของเรา”
ปานตะวันมองอย่างซึ้งใจ
“เอจริงสิ!!นารถมีอะไรให้พี่ตะวันดูค่ะ”
“อะไรเหรอคะ??”
นารถนรินทร์เปิดคอมดูเว็บฯ ชุดเจ้าสาว นารถนรินทร์ยิ้มแฉ่ง “นารถอยากให้พี่ตะวันช่วยดูแบบชุดแต่งงานที่นารถเลือกไว้ค่ะ เลือกไว้เยอะเลยแต่ตัดสินใจไม่ถูก”
ปานตะวันมองนารถนรินทร์ อย่างจริงใจ “พี่ดีใจกับน้องนารถจริงๆนะคะ”
“ขอบคุณมากค่ะ อ้อ! ห้ามบอกทุกคนด้วยนะคะเรื่องชุดเนี่ย โดยเฉพาะพวกพี่นัคกับพี่อัค ปากตะละคน..น่ากลัวมาก”
ปานตะวันอมยิ้มน้อยๆ นารถนรินทร์เปิดดูรูปไปเรื่อย ปากก็พูดไป “จะมีก็พี่คินนี่ล่ะ..น่ารักที่สุด”
ปานตะวันหุบยิ้ม
“ผู้ชายอะไรไม่รู้ ทั้งหล่อ ทั้งน่ารัก ใจดี นี่ถ้านารถไม่ใช่น้องสาวนะ ชาตินี้จะไม่ขอแต่งงานกับผู้ชายคนไหนเลยนอกจากพี่คินคนเดียว”
ปานตะวันหน้านิ่ง ไม่เห็นด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว ดูนารถนรินทร์ แฮปปี้กับแบบชุดแต่งงานตรงหน้า
ปานตะวันมองชุดแต่งงานแล้วก็หน้าสลด ชาตินี้..จะมีวันได้ใส่ชุดนั้นบ้างมั้ยเรา??

มุมหนึ่งบ้านไกรตระกูล ปานตะวันเดินเพิ่งเสร็จงานจากห้องนารถนรินทร์ก็เจอกันกับอัครินทร์ที่เพิ่งกลับจากทำงาน “คุณตะวัน!!! ทำไมไม่นอนพักล่ะครับ ลุกขึ้นมาทำไม?”
“ฉันแข็งแรงดีแล้วค่ะ”
“คุณน่ะเหรอครับแข็งแรง เมื่อเช้าร่างกายคุณยังอ่อนแอมากอยู่เลย”
ปานตะวันยิ้มน้อยๆ “อ่อนแอ..แต่ก็ต้องรีบแข็งแรงให้เร็วค่ะ..จะได้ไม่เจ็บปวดไปยิ่งกว่านี้”
อัครินทร์อึ้งๆ กับคำตอบของปานตะวัน ปานตะวันเปลี่ยนเรื่อง เมื่อเห็นรอยช้ำที่มุมปากอัครินทร์ “นั่นคุณไปโดนอะไรมาคะ”
อัครินทร์แตะมุมปาก “เล็กน้อยครับ”
“มีเรื่องกับใครมาคะ?”
อัครินทร์ยิ้มน้อยๆ ส่ายหน้าแบบช่างมันเถอะ
“อย่าบอกนะคะว่า..คุณนาคินทร์”
“ดึกแล้ว..ไปนอนดีกว่านะครับ ฝันดีนะครับ” อัครินทร์เดินจากไป
ปานตะวันพึมพำ “ใจร้าย..คุณนี่มันใจร้ายเหลือเกิน..คุณนาคินทร์”

มุมอาหารเช้า บ้านไกรตระกูล นาคินทร์นั่งหล่ออยู่กับทวยเทพ สาวิตรีเอาอาหารเช้ามาเสิรฟ์เป็นไข่ดาว มีขนมปังรูปยิ้ม เนย แยม กาแฟ ฯลฯ
“เบรกฟัดชุดสุดพิเศษจ๊ะพี่คิน”
นาคินทร์เห็นก็ยิ้มขำ “อะไรกันครับคุณแม่ยังกับของเด็กอนุบาล มีขนมปังยิ้มด้วย”
“เอ๊า!! บางทีคนเราก็ควรจะกลับไปเป็นเด็กบ้างไรบ้างสิจ๊ะ โลกมันจะได้สดใสไม่ซีเรียส แม่เห็นหมู่นี้พี่คินเครี๊ยดเครียดไม่ค่อยจะมีรอยยิ้ม สงสัยจะทำงานหนักเกินไป แม่ก็เลยอยากให้พี่คินยิ้มบ้างไงจ๊ะ”
นาคินทร์หุบยิ้มทันที เมื่อเห็นปานตะวันเข็นนารถนรินทร์ออกมา
สาวิตรียังไม่เห็นปานตะวัน “อ้าว!! ตะกี้ยิ้มหล่ออยู่ดีๆ หุบยิ้มซะแล้ว –ทำไมล่ะพี่คิน”
นาคินทร์จ้องหน้าปานตะวันที่เข้ามาที่โต๊ะ
“โห..อาหารเช้าพี่คินน่ารักอ่ะ”
ใบตองเสิรฟ์นารถนรินทร์ “ของคุณนารถก็มีค่าาา.. คุณตะวันด้วยนะคะ ยิ่งไม่ค่อยสบาย ยิ่งต้องโด๊ปให้หนักๆ” ใบตองวางอาหารให้ปานตะวันด้วย
“ไงลูก?? ค่อยยังชั่วรึยังจ๊ะหนูตะวัน”
นาคินทร์มอง
“ตะวันแข็งแรงดีแล้วค่ะ”
“พี่ตะวันแข็งแรงมากจริงๆ นะคะคุณแม่ เมื่อคืนนี้ยังมาทำกายภาพให้นารถได้เลย”
“อย่างนั้นเลยเหรอลูก?? เห็นตัวแค่นี้ไม่น่าเชื่อนะจ๊ะ”
“เค้าถึงบอกว่าอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นไงครับ” นาคินทร์เหน็บ
ปานตะวันมองจ้อง นาคินทร์ก็มองตอบ
เสียงนัครินทร์ดังลั่นมา “มอนิ่งงงงงฮะ..ทุกคนฮะ...โห!! กำลังหิวเลย” นัครินทร์คว้าจานของนารถนรินทร์ไปกินตุ้ยๆ
นารถนรินทร์ตีเพียะ “พี่นัค!! ทุเรศที่สุดเลย”
“ใบตอง..ไปจัดให้คุณนารถใหม่ไป๊” ใบตองรีบวิ่งออกไป
“ท่าทางวันนี้จะฝนตกหนัก ไอ้เจ้านัคตื่นแต่เช้า”
“ตื่นเพราะหิวสิฮะพ่อ เมื่อคืนกลับดึกไม่ได้กินอะไรด้วย”
“ไปไหนมาถึงกลับดึก??”
“อ่อ ไปส่งคุณเลขาฯที่คอนโดฯฮะ”
ปานตะวันชะงักกึกด้วยความเป็นห่วงน้อง ถามเสียงแข็ง “ทำไมต้องไปส่งคะ?!..เอ่อ..คือ..ฉันหมายความว่า..ยัยเดือนเป็นอะไรรึเปล่า คุณนัคถึงต้องไปส่งคะ?”
นาคินทร์จับตามองปานตะวันที่เป็นห่วงน้องออกนอกหน้า
ในขณะที่นัครินทร์ก็แก้ตัวแบบดูมีพิรุธสุดๆ “เปล่าฮะ คุณเลขาฯไม่ได้เป็นอะไรซักนิ้ดเลยฮะ คือ..เอ่อ..ก็พี่คินน่ะสิ..เกเรไม่เข้าบริษัทฯ พวกเราก็รอ เคลียร์งานจนดึกก็ยังไม่ยอมมา ผมเห็นว่าดึกแล้วก็เลยอาสาไปส่งให้ คุณตะวันจะได้สบายใจไม่เป็นห่วงน้องสาวไงฮะ”
“นั่นแหละ!! ไปกับพี่นัคนั่นแหละน่าเป็นห่วงที่สุด”
ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์มองปานตะวัน -- ได้การล่ะ!!
“อ้าวเฮ่ย!! พูดจางี้พี่เสียหายนะน้อง”
“จริงสิ..นัค ลูกค้ารายใหญ่ของเราที่เมืองกาญจน์น่ะ นายได้ติดต่อพูดคุยกับเค้ามั่งรึเปล่า?”
“จะคุยอะไรกันนักหนาฮะพี่คิน”
“เฮ่ยๆๆ..ลูกค้ารายนี้เก่าแก่ตั้งแต่รุ่นพ่อ ต้องรักษาไว้ให้ดีนะ” ทวยเทพชี้ให้นัครินทร์เห็นความสำคัญของลูกค้า
“นั่นสิ..ฉันว่าแกไปเยี่ยมเค้าซะหน่อยนะ” เปิดช่องให้นาคินทร์ดำเนินตามแผนที่คิดไว้
“โอย..พี่คินไปเองสิฮะ”
นาคินทร์พูดด้วยน้ำเสียงมีนัยยะซ่อนเร้น “ไปค้างซักคืน 2 คืนพาคุณเดือนไปรู้จักกันไว้ด้วยก็ยิ่งดี”
ปานตะวันหันขวับมองนาคินทร์ นัครินทร์ชะงัก “อ๊ะ?? ไอเดียนี้ไม่เลวฮะ..น่าสนใจ”
“อย่าเลยนะคะคุณนัค” ปานตะวันทำท่าจะห้าม
“ในฐานะประธานบริษัทฯ..นี่เป็นคำสั่ง!!!” นาคินทร์หันมองปานตะวันยิ้มพิฆาต!!! ปานตะวันเจอไม้นี้เข้าไปถึงกับอึ้ง

มุมลับตาคนบ้านไกรตระกูล ปานตะวันวิ่งมาทันนาคินทร์ที่กำลังเดินไปทำงาน “คุณนาคินทร์”
นาคินทร์ชะงัก หันมามอง?? ปานตะวันเสียงแข็งแต่สั่น “จะแก้แค้นให้สะใจ จะให้ชดใช้เวรกรรมอะไรของคุณก็ขอให้เป็นฉันคนเดียว ยัยเดือนไม่เกี่ยวอะไรด้วย อย่ายุ่งกับประกายเดือน..ฉันขอร้อง”
“ถ้าอยากจะทำให้ใครเจ็บปวดที่สุดก็ต้องทำร้ายคนที่เค้ารักที่สุด”
ปานตะวันปรี้ดพุ่งเข้าทุบๆ “เลว คุณมันเลวๆๆ”
นาคินทร์จับรวบมือไว้แล้วผลักลงไปกองกับพื้น “ถ้าผมเลว!! คุณก็เลว!!”
ปานตะวันตวัดสายตามองอาฆาต
“เพราะสิ่งที่ผมกำลังทำกับคุณมันก็คือสิ่งที่คุณเคยทำกับผมเหมือนกัน” พูดจบนาคินทร์ก็เดินไป
ปานตะวันร้องเรียก “คุณนาคินทร์!! ฉันขอร้อง!! คุณนาคินทร์!!”

มุมกาแฟบริษัท KTK ประกายเดือนชงกาแฟไป คุยโทรศัพท์ไป
“เว่อร์แล้วตะวัน!! แค่ไปเยี่ยมลูกค้าไม่ได้ถูกพาไปฆ่าซะหน่อย ทำไมต้องทำเสียงน่ากลัวซะขนาดนั้น”
ปานตะวันหน้าตากังวัลมาก เสียงดุ “เดือน!! พี่ไม่ได้พูดเล่น!! พี่เป็นห่วงเดือนมากนะ”
“โห..ดุอีกแล้ว หมู่นี้เป็นไรอ่ะ..ดุจัง”
ปานตะวันเสียงอ่อนลง “เดือน..พี่อยากให้เดือนลาออก”
“บ้า!!! ลาออก??? นี่หายไม่สบายรึยังเนี่ย?? เพ้อรึเปล่า??”
“พี่พูดจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น”
“ตะวัน..เงินเดือนขนาดนี้ แถมอีตาท่านรองฯ ยังให้เปอร์เซ็นต์พิเศษเค้าด้วย เดือนละตั้งหลายตังค์ อย่างนี้เค้าจะไปหาที่ไหน”
“เปอร์เซ็นต์พิเศษ?? เปอร์เซ็นต์อะไร??”
“ก็ทุกงานที่เค้าช่วยปิดจ็อบเจราจาลูกค้าได้น่ะสิ..อีตาขี้หลีนั่นมันให้เค้าตลอดเลย”
“ยิ่งไม่น่าไว้ใจแล้วเดือน นี่คิดจะเอาเงินฟาดหัวกันล่ะสิ พี่น้องเลวเหมือนกันไม่มีผิด”
“ตะวัน?? ตะกี้ว่าไงนะ..พูดกะเค้ารึเปล่า??”
“เดือน!! พี่ขอสั่งให้เดือนลาออกเดี๋ยวนี้!!”
ปาริฉัตรโผล่เข้ามาพอดี 2 สาวจ้องตากัน
“แค่นี้ก่อนนะ ไว้ค่อยคุยกัน ตอนนี้ดูเหมือนจะมีคลื่นแทรก!! น่ารำคาญ!!” ประกายเดือนวางสาย
“เดือนๆๆ ฮาโหลๆ เดือน!! เดือน..ทำไมถึงเป็นอย่างนี้!!!”
สองสาวยังจ้องกัน
“ใครคลื่นแทรก?? ใครน่ารำคาญ??”
“ก็ใครล่ะที่เพิ่งโผล่มา”
“ชักจะซ่าขึ้นทุกวันแล้วนะ ถือว่าเป็นอีหนูท่านรองฯ แล้วซ่าได้เหรอนังเดือน?”
“ก็เออสิ..นังฉัตร!!”
ปาริฉัตรคว้าแก้วน้ำแถวนั้นสาดเดือนทันที “เฮ้ย!!!”
ปาริฉัตรหัวเราะชอบใจ เดือนหยิบกาแฟในมือสาดใส่ปาริฉัตรทันที ปาริฉัตรดิ้นเร่าๆ ด้วยความร้อน“กริ๊ดดดด”
“แหม..เสียดาย ร้อนน้อยไปหน่อย ตะกี้มัวแต่คุยโทรศัพท์ไม่งั้นล่ะ แกพองทั้งตัวแน่..นังฉัตร!!!” พูดจบประกสยเดือนก็สะบัดตัวจะเดินออก
ปาริฉัตรจิกหัวประกายเดือนจนหน้าหงาย “จะไปไหน นังเดือน!!”
ปาริฉัตรจิกหัวประกายเดือนโขกๆๆ ลงกับโต๊ะจนมึนลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น “รู้จักปาริฉัตรน้อยไปแล้วนะแก”
ปาริฉัตรกำลังจะตามไปขย้ำแต่บังเอิญมอลลี่และลูกกอล์ฟ เดินเข้ามาร้องกริ๊ดลั่นซะก่อน “ว๊ายยย!! เกิดอะไรขึ้น?? ช่วยด้วยๆๆๆ”
ปาริฉัตรชะงักเปลี่ยนจากหมาบ้าเป็นแมวเหมียวทันที “พี่มอลลี่ช่วยด้วยค่ะ อยู่ๆ คุณเดือนก็เป็นลมล้มวูบ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย” สองคนรุมช่วยประกายเดือน หน้าปาริฉัตรแอบสะใจ

บ้านไกรตระกูล ปานตะวันร้อนใจ “ช่วยยัยเดือนด้วยได้มั้ยคะ..คุณอัค..ฉันขอร้อง”
“ผมไม่เข้าใจน่ะครับว่าทำไมคุณตะวันถึงอยากให้ผมบอกพี่นัคเลิกจ้างคุณเดือน
ปานตะวันพูดไม่ได้ “ก็..เอ่อ..คือ”
“คุณตะวันครับ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะเล่าให้ผมฟังบ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น??”
ปานตะวันมองหน้าอัครินทร์อย่างลำบากใจที่สุด “ฉัน....ฉัน..”
อัครินทร์มองอย่างรอฟัง
“ฉัน..” ปานตะวันตัดสินใจไม่พูด เบือนหน้า
ทันใดนั้นมือถืออัครินทร์ดังขึ้น “ไง..พี่นัค อะไรนะ? คุณเดือนทำไมนะ??”
ปานตะวันหันขวับ “เดือน!!! เดือนเป็นอะไร?? เกิดอะไรขึ้นกับเดือน??”

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 12/5 วันที่ 30 พ.ค. 57

ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shayna
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ